เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองให้สนุก ก็ต้องเรียนจากสิ่งที่ชอบเช่น ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเพลงหรือ อ่านนิตยสารเกี่ยวกับเรื่องที่เราสนใจ เพื่อปรับปรุงทักษะการฟัง การออกเสียง และการอ่านจับใจความ
"Watch movies, listen to music, sing songs, and browse newspapers and magazines. It’s fun and helps improve your pronunciation and comprehension."
บางคนทักษะการฟังและการอ่านค่อนข้างโอเคแล้ว แต่แหม..เวลาจะพูดทีไรพูดไม่ถูก เทคนิคที่สำคัญเลยค่ะ คือ..
"Watch movies, listen to music, sing songs, and browse newspapers and magazines. It’s fun and helps improve your pronunciation and comprehension."
บางคนทักษะการฟังและการอ่านค่อนข้างโอเคแล้ว แต่แหม..เวลาจะพูดทีไรพูดไม่ถูก เทคนิคที่สำคัญเลยค่ะ คือ..
Don’t translate literally from your native tongue. !!
อย่าแปลตรงๆ จากภาษาไทย ไปอังกฤษ อย่าคิดเป็นภาษาไทยค่ะ
"Sentence constructions are particular to each language and generally can not be translated into English directly from another language. While on some occasions what you are saying might not be wrong, to a native speaker it might not sound right."
แต่ละภาษาในโลกนั้นมีระบบต่างกัน เราจึงไม่สามารถแปลเป็นคำๆหรือแปลตรงๆจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาหนึ่งได้
อย่าแปลตรงๆ จากภาษาไทย ไปอังกฤษ อย่าคิดเป็นภาษาไทยค่ะ
"Sentence constructions are particular to each language and generally can not be translated into English directly from another language. While on some occasions what you are saying might not be wrong, to a native speaker it might not sound right."
แต่ละภาษาในโลกนั้นมีระบบต่างกัน เราจึงไม่สามารถแปลเป็นคำๆหรือแปลตรงๆจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาหนึ่งได้
เช่น คุณช่วยเปิดไฟหน่อยได้ไหมคะ = You help open light ok?
โอ๊ยยยย ไปกันใหญ่ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเวลาเรียน ต้องเรียนเป็นประโยคหรือสำนวนไปเลย เช่น เวลาขอความช่วยเหลือ ก็จำสำนวนไปเลยว่า
Could you please .+กริยา +(กรรม) หรือสิ่งที่เราต้องการให้เขาช่วย......?
คุณช่วยเปิดไฟหน่อยได้ไหมคะ = Could you please turn on the light?
(ไม่ต้องถึงขั้น You know me a little go ! มรึงรู้จักกรูน้อยไปนะคะ )
โอ๊ยยยย ไปกันใหญ่ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเวลาเรียน ต้องเรียนเป็นประโยคหรือสำนวนไปเลย เช่น เวลาขอความช่วยเหลือ ก็จำสำนวนไปเลยว่า
Could you please .+กริยา +(กรรม) หรือสิ่งที่เราต้องการให้เขาช่วย......?
คุณช่วยเปิดไฟหน่อยได้ไหมคะ = Could you please turn on the light?
(ไม่ต้องถึงขั้น You know me a little go ! มรึงรู้จักกรูน้อยไปนะคะ )
เหมือนกับเวลาที่ฝรั่งพูดไทย แบบแปลตรงๆจากภาษาอังกฤษ มาเป็นไทยเช่น
Can you help me? ได้คุณช่วยผม? คนไทยงงกันเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น